Handmade Tech

ทำเว็บบริษัท ต้องเตรียมอะไรบ้าง: เนื้อหา รูปภาพ และข้อมูลเบื้องต้น

คำถามที่ได้ยินบ่อยมากจากเจ้าของธุรกิจ คือ
“จะเริ่มทำเว็บบริษัท ต้องเตรียมอะไรบ้าง?”

หลายคนรู้แค่ว่าอยากมีเว็บไซต์ให้ดูน่าเชื่อถือ เวลาลูกค้าเสิร์ชชื่อบริษัทใน Google จะได้มีเว็บขึ้นมา แต่พอทีมรับทำเว็บไซต์ถามว่า “ขอเนื้อหากับรูปภาพหน่อยครับ” ก็เริ่มมึน ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนก่อน ส่งอะไรให้ก่อนดี เนื้อหาต้องยาวแค่ไหน รูปแบบไหนใช้ได้

ปัญหาคือ ถ้าไม่มีการเตรียมข้อมูลตั้งแต่ต้น โปรเจกต์ทำเว็บมักจะ “ค้างกลางอากาศ” ยืดจาก 1–2 เดือน กลายเป็นครึ่งปี ทั้งที่ฝั่งทีมพัฒนาเตรียมระบบพร้อมแล้ว แต่รอเนื้อหาไม่เสร็จเสียที

บทความนี้เลยตั้งใจทำเป็น “คู่มือสั้น ๆ” สำหรับเจ้าของบริษัทและคนทำการตลาด ว่าจริง ๆ แล้ว ทำเว็บบริษัท ต้องเตรียมอะไรบ้าง แบ่งเป็น 3 หมวดหลัก ๆ:

  • เนื้อหา (Content)
  • รูปภาพ/สื่อประกอบ
  • ข้อมูลธุรกิจและข้อมูลเทคนิค

อ่านจบ คุณจะสามารถลิสต์สิ่งที่ต้องเตรียมให้ทีมทำเว็บได้ทันที ไม่ต้องเดาเอง และทำให้โปรเจกต์เดินได้เร็วขึ้นอย่างชัดเจน


ทำไมการเตรียมข้อมูลก่อนทำเว็บบริษัทถึงสำคัญมาก

เว็บเสร็จไวหรือยืดเยื้อ ขึ้นอยู่กับการเตรียมข้อมูลของบริษัท

ในมุมทีมพัฒนา ระบบ โครงสร้างเว็บ และดีไซน์ สามารถทำไปก่อนได้ระดับหนึ่ง แต่ “เนื้อหาจริง” ยังไงก็ต้องมาจากบริษัทคุณ เพราะไม่มีใครรู้ธุรกิจคุณดีเท่าตัวคุณเอง

เว็บเสร็จเร็วหรือช้า ส่วนใหญ่ไม่ได้ติดที่โค้ด แต่ติดที่ “ยังไม่ได้เนื้อหา/รูป” นี่แหละ

เว็บไซต์คือหน้าบริษัทบนโลกออนไลน์ ไม่ใช่แค่หน้าตาสวยอย่างเดียว

เว็บไซต์บริษัทเปรียบเหมือนออฟฟิศสาขาออนไลน์ ลูกค้าเข้ามาแล้วต้องรู้ว่า

  • คุณคือใคร
  • ทำอะไร
  • น่าเชื่อถือหรือไม่
  • ติดต่อยังไง

ดีไซน์สวยช่วยเรื่องความรู้สึกแรก (First Impression) แต่สิ่งที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจ คือ “ข้อมูล” ที่วางอยู่ในเว็บ

เตรียมดี = ทีมรับทำเว็บไซต์ออกแบบง่าย เว็บตรงใจลูกค้ามากกว่า

พอคุณเตรียมข้อมูลชัด ทีมรับทำเว็บไซต์จะสามารถ

  • วางโครงหน้าเว็บให้เหมาะกับสิ่งที่คุณต้องการสื่อ
  • เลือกจุดเน้นในหน้าแรกให้โดนใจกลุ่มเป้าหมาย
  • เขียน/ปรับข้อความและออกแบบให้สอดคล้องกับภาพลักษณ์แบรนด์

สรุปคือ เตรียมดีตั้งแต่ต้น ประหยัดทั้งเวลาและงบ และได้เว็บที่ใช้ทำการตลาดได้จริง ไม่ใช่แค่ทำไว้ให้ “มีเว็บกับเขาเฉย ๆ”


ทำเว็บบริษัท ต้องเตรียมอะไรบ้าง: ภาพรวม 3 หมวดหลัก

เพื่อไม่ให้รู้สึกว่าต้องเตรียมทุกอย่างไปพร้อมกัน ลองแบ่งออกเป็น 3 หมวดแบบนี้ก่อน

หมวดที่ 1 – เนื้อหา (Content) ที่ต้องใช้ในหน้าเว็บต่าง ๆ

ทั้งหมดที่เป็นข้อความในเว็บ: แนะนำบริษัท อธิบายบริการ รายละเอียดสินค้า รีวิวลูกค้า ฯลฯ

หมวดที่ 2 – รูปภาพ โลโก้ และสื่อประกอบ

ทุกอย่างที่เป็นภาพ เช่น โลโก้ รูปออฟฟิศ ทีมงาน ภาพสินค้า อินโฟกราฟิก ฯลฯ

หมวดที่ 3 – ข้อมูลธุรกิจและข้อมูลเทคนิคที่ควรรู้ร่วมกัน

ข้อมูลพื้นฐาน เช่น กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โทนภาษา Domain, Hosting, ช่องทางติดต่อ วิธีที่อยากให้ลูกค้าติดต่อกลับ

ต่อไปเรามาดูทีละหมวด ว่าในแต่ละหมวดควรมีอะไรบ้าง


หมวดที่ 1 – เนื้อหาที่ควรเตรียมก่อนเริ่มทำเว็บบริษัท

ข้อมูลบริษัท/เรื่องราวแบรนด์ (About Us)

ส่วนตรงนี้คือ “เล่าให้ลูกค้ารู้จักคุณ”

สิ่งที่ควรมี เช่น

  • บริษัททำอะไร อยู่ในธุรกิจอะไร
  • ประสบการณ์/จำนวนปีที่ทำงานในสายนี้
  • วิสัยทัศน์/แนวคิดเบื้องหลังบริษัท (จะเขียนแบบทางการหรือเป็นกันเองก็ได้)
  • จุดยืนที่แตกต่างจากคู่แข่ง

ไม่จำเป็นต้องยาวมาก แต่ควรชัดเจนและเป็นตัวคุณจริง ๆ

รายละเอียดสินค้า/บริการ แบบอ่านแล้วเข้าใจง่าย

สำหรับแต่ละบริการหรือสินค้า ควรตอบอย่างน้อย 4 เรื่องนี้:

  • คืออะไร?
  • เหมาะกับใคร?
  • แก้ปัญหาอะไรให้ลูกค้า?
  • ถ้าใช้บริการ แล้วลูกค้าได้อะไรกลับไป?

เช่น ถ้าคุณทำบริการ “รับทำเว็บไซต์” ก็ควรบอกให้ชัดว่า ทำให้ใคร เหมาะกับธุรกิจประเภทไหน ใช้เวลาประมาณเท่าไหร่ และจุดเด่นของการทำกับคุณคืออะไร

จุดเด่น จุดขาย เหตุผลที่ลูกค้าควรเลือกคุณ

ลองลิสต์เป็นข้อ ๆ ว่า “ทำไมต้องเรา?” เช่น

  • มีทีมงานประสบการณ์ในสายนี้กว่า 10 ปี
  • เน้นใช้งานจริง ไม่ใช่เว็บสวยแต่ใช้ยาก
  • มีบริการหลังการขาย/ดูแลต่อเนื่อง

ข้อมูลส่วนนี้จะช่วยให้ทีมออกแบบเน้นในหน้าแรก (Homepage) ได้ชัด

รีวิวลูกค้า เคสตัวอย่าง และผลงานที่ผ่านมา (Portfolio/Case Study)

ถ้ามีแล้ว แนะนำให้เตรียมไว้เลย

  • รูปผลงาน
  • ชื่อโปรเจกต์/ลูกค้า (ถ้าเปิดเผยได้)
  • คำพูดสั้น ๆ จากลูกค้าจริง

สิ่งเหล่านี้เพิ่มความน่าเชื่อถือให้เว็บไซต์บริษัทได้มาก

ข้อมูลการติดต่อ แผนที่ ช่องทางโซเชียล

ข้อนี้สำคัญมาก แต่หลายเว็บกลับลืมใส่ให้ครบ

  • เบอร์โทร
  • อีเมล
  • ที่อยู่สำนักงาน
  • แผนที่ Google Maps (ถ้ามีหน้าร้านหรือออฟฟิศ)
  • ช่องทางโซเชียล เช่น Line, Facebook, Instagram

ทั้งหมดนี้ควรเป็นข้อมูลล่าสุดและใช้งานได้จริง


หมวดที่ 2 – รูปภาพและสื่อที่ควรเตรียม

โลโก้บริษัทในไฟล์ความละเอียดสูง

แนะนำให้เตรียมไฟล์โลโก้แบบ:

  • PNG พื้นหลังโปร่งใส
  • ถ้ามีไฟล์ต้นฉบับ AI / EPS / SVG จะดีมาก

เพื่อให้ทีมออกแบบสามารถนำไปใช้ได้ทั้งในเว็บและสื่ออื่นในอนาคต

รูปภาพทีมงาน ออฟฟิศ หรือบรรยากาศการทำงานจริง

รูปจริงของบริษัทช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือมากกว่ารูปสต็อกอย่างเดียว

ตัวอย่างเช่น:

  • รูปทีมผู้บริหารหรือทีมหลัก
  • รูปห้องประชุม/ออฟฟิศ
  • รูปขณะทำงาน/บริการลูกค้า

รูปสินค้า/บริการ หรือภาพประกอบที่ตรงกับธุรกิจ

ถ้าคุณขายสินค้า ควรเตรียมรูปสินค้าแบบชัด ๆ หลายมุม
ถ้าเป็นบริการ อาจใช้รูปขณะทำงาน หรือรูปสถานที่/อุปกรณ์ที่ใช้จริง

ขนาดและคุณภาพรูปที่เหมาะกับการใช้งานบนเว็บ

ไม่จำเป็นต้องส่งไฟล์ใหญ่สุดเท่าที่มี (เช่น รูปจากกล้องดิบ ๆ 10–20 MB ต่อรูป) เพราะจะทำให้เว็บช้าเกินไป

ทีมรับทำเว็บไซต์มักจะช่วยย่อขนาดให้ แต่ถ้าคุณแยกรูปที่ “ชัดและไม่เบลอ” มาให้ก่อน ก็ช่วยให้ทำงานง่ายขึ้นเยอะ


หมวดที่ 3 – ข้อมูลธุรกิจและข้อมูลเทคนิคที่ควรรู้

ข้อมูลพื้นฐานธุรกิจ: กลุ่มลูกค้า เป้าหมาย และภาพลักษณ์ที่ต้องการ

ลองตอบคำถามประมาณนี้ให้ตัวเอง (และทีมทำเว็บ):

  • ลูกค้าหลักของคุณคือใคร?
  • เขาคาดหวังอะไรจากบริษัทของคุณ?
  • คุณอยากให้โทนเว็บออกมาแบบไหน (เช่น ทางการ เรียบหรู หรือเป็นกันเอง)

ข้อมูลชุดนี้จะช่วยให้ทั้งดีไซน์และการเขียนเนื้อหาถูกโทน

โครงสร้างหน้าเว็บ (เมนูหลัก) ที่อยากให้มี

เช่น

  • หน้าแรก (Home)
  • เกี่ยวกับเรา
  • สินค้า/บริการ
  • ผลงาน/ลูกค้า
  • บทความ/ข่าวสาร
  • ติดต่อเรา

ถ้าไม่แน่ใจ ทีมรับทำเว็บไซต์มักช่วยเสนอโครงให้ แต่ถ้าคุณคิดไว้คร่าว ๆ ก่อน จะคุยกันง่ายขึ้นมาก

ข้อมูล Domain, Hosting และอีเมลธุรกิจ (ศัพท์เทคนิคแบบสั้น ๆ)

  • Domain = ชื่อเว็บไซต์ เช่น yourcompany.co.th
  • Hosting = พื้นที่เก็บไฟล์เว็บไซต์บนเซิร์ฟเวอร์
  • อีเมลธุรกิจ = อีเมลที่ลงท้ายด้วยชื่อโดเมน เช่น info@yourcompany.co.th

ถ้ามี Domain และ Hosting อยู่แล้ว แจ้งข้อมูลให้ทีมทำเว็บได้เลย
ถ้ายังไม่มี ส่วนใหญ่ทีมรับทำเว็บไซต์สามารถช่วยแนะนำหรือจัดการให้ได้

แนวทางเบื้องต้นเรื่อง SEO, Keyword และภาษาในการสื่อสาร

คุณไม่จำเป็นต้องเป็นกูรู SEO แต่อย่างน้อย ลองคิดคำที่ลูกค้าน่าจะใช้ค้นหาคุณใน Google ไว้คร่าว ๆ เช่น

  • “รับทำเว็บไซต์ บริษัท B2B”
  • “บริการที่ปรึกษาภาษี SME กรุงเทพฯ”

คำเหล่านี้จะช่วยให้ทีมวางโครง On-Page SEO เบื้องต้นได้ถูกทิศทาง


How-to: Checklist เตรียมตัวทำเว็บบริษัท ให้ส่งงานทีมทำเว็บได้แบบไม่หลงทาง

ขั้นที่ 1 – เขียนลิสต์หน้าเว็บหลักที่ต้องมี

เริ่มจากเมนูหลัก ๆ ก่อน แล้วค่อยเติมหน้ารองทีหลัง
ไม่ต้องละเอียด 100% แค่มีโครงให้ทีมเห็นภาพ

ขั้นที่ 2 – เติมเนื้อหาคร่าว ๆ ลงในแต่ละหน้า

ไม่ต้องกลัวว่าจะเขียนไม่สวย ทีมรับทำเว็บไซต์/คอนเทนต์สามารถช่วยปรับได้
หน้าที่ของคุณ คือ “บอกเนื้อเรื่องให้ครบ” มากกว่าการเขียนให้เป๊ะตั้งแต่แรก

ขั้นที่ 3 – รวมรูปภาพ โลโก้ และไฟล์สำคัญใส่โฟลเดอร์เดียวกัน

ตั้งชื่อโฟลเดอร์ง่าย ๆ เช่น website-company-2025 แล้วแบ่งเป็นโฟลเดอร์ย่อย:

  • /logo
  • /office-team
  • /products-services
  • /portfolio

จากนั้นแชร์ให้ทีมทำเว็บผ่าน Google Drive หรือช่องทางที่ตกลงกัน

ขั้นที่ 4 – ตอบคำถามง่าย ๆ เรื่องกลุ่มลูกค้าและจุดขายของบริษัท

เขียนเป็นข้อ ๆ ก็ได้ เช่น

  • ลูกค้าหลัก: โรงงาน/โรงเรียน/SME ฯลฯ
  • ปัญหาที่เขามักเจอ
  • ทำไมเขาควรเลือกบริษัทคุณ

สิ่งนี้ช่วยให้เว็บ “พูดกับลูกค้าถูกคน”

ขั้นที่ 5 – นัดคุยกับทีมรับทำเว็บไซต์เพื่อเคลียร์ภาพก่อนเริ่มออกแบบ

เมื่อคุณเตรียมข้อมูลเหล่านี้ครบระดับหนึ่งแล้ว การคุยรอบแรกจะมีประสิทธิภาพมากกว่าการ “คุยเปล่า ๆ” โดยไม่มีข้อมูลอะไรเลย


ตัวอย่างสถานการณ์: ลูกค้าที่เตรียมข้อมูลดี vs ยังไม่รู้จะเริ่มยังไง

เคส A – บริษัทบริการที่เตรียมเนื้อหา/รูปครบ โปรเจกต์เดินไว

ลูกค้ารายหนึ่งเป็นบริษัทบริการ B2B
ก่อนเริ่มทำเว็บ เขาส่ง

  • โครงเมนู
  • เนื้อหาคร่าว ๆ สำหรับแต่ละหน้า
  • รูปทีมงานและรูปงานหน้างาน

ให้ทีมงานภายใน 1–2 อาทิตย์ ผลคือ

  • ภายในเดือนเดียวได้เห็นดีไซน์รอบเกือบสมบูรณ์
  • แก้งานไม่เยอะ เพราะโจทย์ชัดตั้งแต่ต้น

เคส B – รอข้อมูลไปเรื่อย ๆ สุดท้ายเว็บล่าช้าเกินกำหนด

อีกรายหนึ่ง “อยากทำเว็บมาก” แต่ยังไม่รู้จะเขียนอะไร ก็เลื่อนไปทีละสัปดาห์
ส่งเนื้อหานิดหน่อย แก้ไปแก้มาทีละจุด สุดท้ายโปรเจกต์เลื่อนออกไปหลายเดือน

บทเรียนคือ ยิ่งคุณรู้ก่อนว่า ทำเว็บบริษัท ต้องเตรียมอะไรบ้าง และลงมือเตรียมเร็ว โปรเจกต์ก็จบเร็ว และคุณก็ได้ใช้เว็บทำการตลาดเร็วขึ้น


FAQ – คำถามที่ลูกค้ามักถามเวลาเริ่มทำเว็บบริษัท

Q1: ถ้าเขียนเนื้อหาเองไม่เก่ง ทีมรับทำเว็บไซต์ช่วยได้แค่ไหน?

ส่วนใหญ่ช่วยได้ครับ อย่างน้อยสามารถช่วยเรียบเรียง/ปรับให้อ่านง่าย เป็นมืออาชีพขึ้น เพียงขอให้คุณช่วยให้ “ข้อมูลดิบ” ให้ครบ เช่น รายละเอียดบริการ จุดเด่น สิ่งที่ลูกค้าได้ประโยชน์

Q2: ไม่มีรูปอะไรเลย ใช้แต่รูปสต็อกได้ไหม?

ใช้ได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้ามีรูปจริงของธุรกิจแม้เพียงเล็กน้อย เช่น รูปทีม รูปหน้าร้าน จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือได้มากกว่า รูปสต็อกควรใช้เป็นตัวเสริม ไม่ใช่ทั้งหมด

Q3: ยังไม่มี Domain/Hosting จะเริ่มทำเว็บได้หรือยัง?

เริ่มได้ โดยสามารถให้ทีมรับทำเว็บไซต์ช่วยแนะนำหรือจัดการเรื่อง Domain และ Hosting ให้พร้อมก่อนเปิดจริง ระหว่างนี้สามารถทำดีไซน์และเตรียมเนื้อหาไปพร้อมกันได้

Q4: ข้อมูลพวก SEO หรือ Keyword ต้องเตรียมเองไหม?

ถ้าคุณมีไอเดียคำที่ลูกค้าน่าจะเสิร์ช จะช่วยได้เยอะ แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไร ทีมงานสามารถช่วยเสนอคำสำคัญเบื้องต้นแล้วคุยร่วมกันได้

Q5: ถ้าธุรกิจเพิ่งเริ่ม ยังไม่มีข้อมูลเยอะ ควรทำเว็บบริษัทแบบไหนก่อนดี?

เริ่มจากเว็บบริษัทแบบกระทัดรัด มีหน้าแนะนำบริษัท บริการหลัก รีวิวหรือเคสที่มี และหน้าติดต่อเรา แล้วค่อยอัปเดตเพิ่มเมื่อธุรกิจมีข้อมูลมากขึ้น


สรุป: ทำเว็บบริษัท ต้องเตรียมอะไรบ้าง ให้ใช้งานได้จริงในระยะยาว + Soft CTA

สรุปให้สั้นอีกครั้งว่า ทำเว็บบริษัท ต้องเตรียมอะไรบ้าง

  1. เนื้อหา: แนะนำบริษัท บริการ/สินค้า จุดเด่น รีวิวลูกค้า ข้อมูลติดต่อ
  2. รูปภาพ/สื่อ: โลโก้ ทีมงาน ออฟฟิศ สินค้า/บริการ และผลงานจริง
  3. ข้อมูลธุรกิจและเทคนิค: กลุ่มลูกค้า โครงสร้างหน้าเว็บ โทนภาษา Domain/Hosting และแนวทาง SEO เบื้องต้น

คุณไม่จำเป็นต้องเตรียมทุกอย่างให้ “สมบูรณ์แบบ” ตั้งแต่วันแรก แค่เริ่มลิสต์และเก็บข้อมูลเหล่านี้ไว้ทีละส่วน ก็ช่วยให้การทำเว็บกับทีมรับทำเว็บไซต์ง่ายขึ้นมาก และได้เว็บที่พร้อมใช้งานจริง ไม่ใช่แค่เว็บเปล่า ๆ

ถ้าคุณกำลังวางแผนทำเว็บบริษัท และอยากได้คนช่วยไกด์ว่าในเคสของธุรกิจคุณควรเริ่มเตรียมอะไรบ้าง ทีม รับทำเว็บไซต์ ของเรายินดีให้คำปรึกษาแบบไม่ผูกมัด ลองคุยโจทย์ เป้าหมาย และสิ่งที่มีอยู่ก่อน แล้วค่อยตัดสินใจก็ได้ ว่าจะให้เราเป็นคนช่วยเปลี่ยนข้อมูลที่คุณมี ให้กลายเป็นเว็บไซต์บริษัทที่ดูมืออาชีพและพร้อมใช้งานในระยะยาว 🌐✨

Recent

Get Your Budget For The New Project Today