Nvidia ลงทุน Intel ครั้งใหญ่ มูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์ กลายเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Intel พร้อมข้อตกลงพัฒนาชิปร่วมกันสำหรับตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (PC) และดาต้าเซ็นเตอร์ (Data Center) ดีลครั้งนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ แต่ยังเกี่ยวพันกับการเมืองและนโยบายด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ อีกด้วย

ซานฟรานซิสโก, 18 กันยายน — สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า Nvidia (NVDA.O) จะลงทุน 5 พันล้านดอลลาร์ใน Intel (INTC.O) หลังรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่งเข้าซื้อหุ้น 10% ของ Intel เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ข้อตกลงนี้ทำให้ Nvidia ถือหุ้นประมาณ 4% ของ Intel กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ทันที

การสนับสนุนจาก Nvidia ถือเป็นการเปิดทางใหม่ให้ Intel หลังจากความพยายามฟื้นฟูตลอดหลายปีไม่ประสบความสำเร็จ ราคาหุ้น Intel ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นทันทีหลังข่าวถูกเผยแพร่

การเปลี่ยนแปลงใน Intel และแรงกดดันทางการเมือง

Intel เคยเป็น “ผู้นำแห่งซิลิคอนวัลเลย์” และผู้บุกเบิกชิปคอมพิวเตอร์ แต่ในช่วงหลังต้องเผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากการแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงของตลาด

ในเดือนมีนาคม Intel แต่งตั้ง Lip-Bu Tan เป็นซีอีโอคนใหม่ แต่เขาถูกโจมตีจากนักการเมืองสหรัฐฯ รวมถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เรียกร้องให้ลาออกเพราะกังวลเรื่องความสัมพันธ์กับจีน ทำให้ต้องมีการประชุมฉุกเฉินในวอชิงตัน และนำไปสู่ข้อตกลงที่รัฐบาลสหรัฐฯ เข้าถือหุ้น 10% ใน Intel

รายละเอียดของดีล Nvidia–Intel

ขอบเขตความร่วมมือ

ข้อตกลงใหม่นี้ระบุว่า Intel และ Nvidia จะ ร่วมกันพัฒนาชิปสำหรับ PC และดาต้าเซ็นเตอร์ แต่จะไม่ครอบคลุมธุรกิจ Foundry (โรงงานผลิตชิปให้รายอื่น) ของ Intel

นักวิเคราะห์เชื่อว่า หาก Intel ต้องการให้ธุรกิจ Foundry อยู่รอด จำเป็นต้องได้ลูกค้ารายใหญ่ เช่น Nvidia, Apple, Qualcomm หรือ Broadcom แต่ดีลนี้ยังไม่ครอบคลุมในส่วนนั้น

ราคาหุ้นและมูลค่าการลงทุน

• Nvidia จะซื้อหุ้น Intel ในราคา 23.28 ดอลลาร์ต่อหุ้น ต่ำกว่าราคาปิดวันพุธ (24.90 ดอลลาร์) แต่สูงกว่าราคาที่รัฐบาลสหรัฐฯ จ่าย (20.47 ดอลลาร์)

• ทั้งสองบริษัทยังไม่เปิดเผยเงื่อนไขทางการเงินเชิงลึก แต่ยืนยันว่าจะร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์หลายรุ่น (multiple generations)

ปัญหา Nvidia ในจีน

แม้ Nvidia จะเป็นผู้นำตลาดชิป AI แต่ก็เผชิญข้อจำกัดการขายในจีน โดยเฉพาะชิปรุ่น H20 ที่ติดปัญหาข้อกำหนดทั้งจากวอชิงตันและปักกิ่ง

ในเดือนสิงหาคม ประธานาธิบดีทรัมป์จัดการเจรจาพิเศษ ทำให้ Nvidia ได้สิทธิ์ขาย H20 ในจีน แต่ต้องแบ่งรายได้ 15% ให้รัฐบาลสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม Nvidia ยืนยันว่ายังไม่ได้ส่งชิป H20 ไปจีน

แม้ดีลกับ Intel จะไม่ช่วยแก้ปัญหานี้ แต่ นักวิเคราะห์มองว่ามีผลเชิงการเมืองในสหรัฐฯ เพราะแสดงให้เห็นว่า Nvidia เดินตามนโยบายรัฐบาล ซึ่งอาจช่วยลดแรงกดดันด้านกฎระเบียบ

เงินทุนใหม่ของ Intel

นอกจากเงินลงทุนจาก Nvidia แล้ว Intel ยังได้รับการสนับสนุนอื่น ๆ ได้แก่

• 2 พันล้านดอลลาร์จาก Softbank

• 5.7 พันล้านดอลลาร์จากรัฐบาลสหรัฐฯ

ทำให้ Intel มีทุนสำรองเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซีอีโอ Tan ยืนยันว่าจะทำให้การดำเนินงานของ Intel มีประสิทธิภาพมากขึ้น และจะสร้างโรงงานเฉพาะเมื่อมีความต้องการจริง

ผลกระทบต่อคู่แข่ง

AMD และ TSMC

David Wagner ผู้จัดการกองทุนจาก Aptus Capital Advisors ระบุว่า
“AMD แย่งส่วนแบ่งตลาดเดสก์ท็อปและแล็ปท็อปมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ดีลนี้จะช่วยให้ Nvidia สู้กับคู่แข่งในประเทศได้ แต่ TSMC อาจเผชิญความเสี่ยงมากกว่าในระยะยาว”

Broadcom

Broadcom ซึ่งมีเทคโนโลยีเชื่อมต่อชิป (Chip-to-Chip Connection) และทำงานกับบริษัทใหญ่อย่าง Google ก็อาจได้รับแรงกดดันเช่นกัน แม้ยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการ

การพัฒนาชิปร่วมกัน

หนึ่งในประเด็นสำคัญของดีลนี้คือ Intel จะออกแบบซีพียูดาต้าเซ็นเตอร์ เพื่อนำไปจับคู่กับ จีพียูของ Nvidia โดยใช้เทคโนโลยีเชื่อมต่อความเร็วสูงของ Nvidia

ความสำคัญของการเชื่อมต่อเร็ว

ในตลาด AI ชิปหลายตัวต้องทำงานร่วมกันเพื่อประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาล ความเร็วในการเชื่อมต่อระหว่างชิปจึงเป็นจุดแตกต่างหลัก (Key Differentiator) ปัจจุบัน เซิร์ฟเวอร์ AI ที่ขายดีที่สุดของ Nvidia ใช้การเชื่อมต่อแบบนี้แต่รองรับเฉพาะชิป Nvidia เท่านั้น

ด้วยข้อตกลงใหม่นี้ Intel จะได้โอกาสสร้างรายได้จากทุกเซิร์ฟเวอร์ของ Nvidia ที่ใช้ซีพียูร่วมกับจีพียูของตน

ผลกระทบในตลาดผู้บริโภค

สำหรับตลาด PC ข้อตกลงนี้กำหนดให้ Nvidia จัดทำกราฟิกชิปแบบเฉพาะ (Custom GPU) สำหรับ Intel เพื่อรวมกับซีพียูรุ่นใหม่ ซึ่งจะใช้การเชื่อมต่อความเร็วสูงแบบเดียวกัน

สิ่งนี้อาจช่วยให้ Intel ได้เปรียบในการแข่งขันกับ AMD ซึ่งครองตลาดกราฟิกการ์ดสำหรับผู้ใช้ทั่วไป

พื้นหลังและภาพรวมอุตสาหกรรม

• Nvidia: เติบโตจากการเป็นผู้ผลิต GPU สำหรับเกม สู่การเป็นผู้นำในตลาด AI ที่ต้องการการประมวลผลระดับสูง

• Intel: เคยครองตลาด CPU แต่สูญเสียส่วนแบ่งให้ AMD และสถาปัตยกรรม Arm การร่วมมือครั้งนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญในการฟื้นตัว

มุมมองผู้เชี่ยวชาญ

หลายฝ่ายเห็นว่าดีลนี้ไม่ใช่แค่เรื่องการเงิน แต่เป็น พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ ที่จะกำหนดอนาคตของอุตสาหกรรมชิปโลก

• สำหรับ Intel: ได้เงินทุนมหาศาลและโอกาสกลับมาแข่งขันในตลาดที่สูญเสียไป

• สำหรับ Nvidia: ได้พันธมิตรที่แข็งแกร่ง เสริมพลังต่อกรกับ AMD และ Broadcom

สรุปและแนวโน้ม

ดีล Nvidia ลงทุน Intel มูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์ เป็นมากกว่าการเพิ่มทุน แต่คือก้าวสำคัญที่จะเปลี่ยนสมดุลของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์โลก

• Intel ได้ทุนและโอกาสฟื้นตลาด CPU/Foundry

• Nvidia ได้พันธมิตรในตลาดดาต้าเซ็นเตอร์และผู้บริโภค

• คู่แข่งอย่าง AMD, TSMC และ Broadcom ต้องเร่งปรับกลยุทธ์

หากทั้งสองสามารถพัฒนาชิปร่วมกันได้สำเร็จ โลกอาจได้เห็นการแข่งขันครั้งใหม่ที่รุนแรงยิ่งกว่าเดิมในยุค AI